เคยคิดกันบ้างป่าวว่า ก่อนมีคอมพิวเตอร์ คนจีนเขาพิมพ์อักษรกันยังไง? เหมือนพิมพ์ดีดภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษรึเปล่า แล้วถ้าจะบอกว่าพิมพ์ดีดจีนไม่ได้มีแค่ไม่กี่ปุ่ม แต่มีเป็นพันปุ่มล่ะจะเชื่อไหม?
มาดูเรื่องราวของความพยายามที่จะยัดตัวอักษรกว่าหมื่นตัวเข้าไปในเจ้าเครื่องพิมพ์ดีดแค่นี้ พร้อมยัง มาเดี๋ยวเล่าให้ฟัง
ไม่รู้เหมือนกันว่ายังมีคนรู้จักหรือจำเจ้าเครื่องพิมพ์ดีดแบบนี้ได้ไหม เวลาพิมพ์ก็จะได้ยินเสียง แต๊ก แต๊ก แต๊ก พิมพ์ไปจนสุดก็ต้องปรับตัวหมุนให้กลับมาที่เดิมเพื่อเริ่มบรรทัดใหม่ เจ้าสิ่งนี้มีมาก่อนคอมพิวเตอร์ที่เราใช่กันในปัจจุบัน ลองจินตนาการถึงยุคที่เปลี่ยนจากการเขียนมาพิมพ์แบบนี้แล้วพิมพ์ได้เร็วกว่า ใครๆก็อยากใช้ใช่ป่ะ มันทำงานเร็วขึ้น สื่อสารกันได้เร็วขึ้น
สิ่งนี้ดูแล้วในภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษก็ดูจะสร้างไม่ยากเท่าไหร่ แต่ใส่สระพยัญชนะ ตัวเลข และ เครื่องหมายให้ครบก็ใช้เครื่องได้แล้ว กดตัวอักษรไหนก็ได้อักษรนั้นประกอบกันออกมาเป็นคำ แต่ไม่ใช่กับภาษาจีนที่มีอักษรเป็นหมื่นๆ ตัว
ปัจจุบันนี้เราก็พิมพ์ด้วยอักษรแทนเสียงอย่างพินอินหรือจู้อินกัน แล้วคอมพิวเตอร์จะเดาออกมาว่าเราจะพิมพ์อักษรไหนให้เราเลือก มันสะดวกมากซะจนนึกไม่ออกเลยว่าก่อนมีเทคโนโลยีปัจจุบัน โลกภาษาจีนเขาจะทำยังไง เขียนเหรอ? พิมพ์ดีดได้ไหม?
ด้วยอักษรกว่าหมื่นๆตัว มันเป็นเรื่องยากมากที่อักษรจีนจะแค่เปลี่ยนอักษรแล้วเอาเข้าไปใส่ในแป้นพิมพ์เพียงไม่กี่สิบปุ่ม ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อแต่ดักเหมาะกับภาษาที่เขียนตามเสียง มากกว่าอักษรภาพเนี่ยสิ
พอปัญหาและข้อจำกัดเป็นแบบนี้แน่นอนว่าย่อมไม่สามารถที่จะแก้ด้วยแค่วิธีเอาไปแทนที่
舒式打字机 ตัวเเรกของภาษาจีน
เครื่องพิมพ์ดีดแรกที่ออกมาในปีค.ศ. 1919 คือ 舒式打字机 (Shū shì dǎzìjī) หรือ เครื่องพิมพ์ดีดแบบซู คิดค้นโดยซูเจิ้น (舒震 | Shū Zhèn) เห็นภาพแล้วก็ เอ๊ะ นี่เครื่องพิมพ์ดีดจริงๆ เหรอ ใช่ครับ แต่เปลี่ยนวิธีการจากที่ต้องใช้ 10 นิ้วมาพิมพ์ เป็น 2 มือมาหาอักษรแทน
เจ้าเครื่องนี้ลดอักษรหมื่นๆ ตัวเหลือเพียงแค่ไม่กี่พันตัวด้วยแนวคิดที่ว่าตัวอักษรที่ใช้บ่อยจริงๆ ก็มีเพียงเท่านี้ และเรียงจากตัวที่ใช้บ่อยๆ ให้อยู่กลางๆ ไล่ออกไปตัวที่ใช้น้อยให้อยู่รอบๆ
ปัญหามันอยู่ที่เครื่องนี้น่ะ มัน ช้า มาก แม้จะมีตารางช่วยให้หาคำได้ง่ายขึ้น แต่ใครจะอยากใช้ถ้าเขียนแล้วยังเร็วกว่า (ถึงอย่างนั้นก็แอบมีหักมุมนะ)
明快打字机 เครื่องพิมพ์ดีดที่เกือบได้เป็นตำนาน
หลินอหวี่ถาง (林语堂) ผู้คิดค้นเจ้าเครื่องพิมพ์ดีดหมิงไคว่ (明快打字机 | Míngkuài dǎzìjī) ที่จะเรียกได้ว่าอัจฉริยะก็ได้ ได้พยายามผลิตเจ้าเครื่องนี้ ตั้งแต่ปีค.ศ. 1916 จนสามารถผลิตงานตัวอย่างชิ้นแรกได้จริงในปี ค.ศ. 1947 ใช้เวลา 30 กว่าปี กลไกของมันเรียกได้ว่าโคตรเทพในสมัยนั้น และ ขนาดก็ใหญ่กว่าเครื่องพิมพ์ดีภาษาอังกฤษไม่มากนัก แต่สามารถพิมพ์ได้ถึง 8,064 ตัวอักษรทั้งจีน อังกฤษ ตัวเลขและเครื่องหมายต่างๆ
หลินอหวี่ถาง (林语堂) ได้ใช้หลักการอักษรที่ใช้บ่อย และ การผสมอักษรเข้ามาเพื่อพัฒนาเจ้าเครื่องนี้ เราเพียงแค่ต้องพิมพ์ส่วนประกอบซ้ายบน และ ขวาล่าง ทำให้พิมพ์ได้เร็วถึง 50 ตัวอักษรต่อนาทีเลย ไวกว่าการเขียนมาก
ลองยกตัวอย่าง หากเราจะพิมพ์ตัว 信 (xìn) เราก็จะพิมพ์ 亻(dānrénpáng) และ 口 (kǒu) เครื่องก็จะเสนออักษรออกมาให้เลือก 8 ตัว จากนั้นเราก็กดตัวเลขเพื่อเลือกตัวที่ถูกต้อง แกนเหล็กสุดพิเศษนี้ก็จะหมุนไปพิมพ์อักษรที่เราต้องการให้ทันที
คุ้นๆ ไหมครับ มันคือระบบที่ถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐานของการพิมพ์แบบให้คอมเดาในปัจจุบันนี้นี่เเหละ
แม้ฝั่งฝรั่งจากพยายามสร้างคอมเครื่องแรกๆ มีพิมพ์จีนได้ Sinotype ในยุคนั้น แต่ก็ยังพิมพ์ได้แค่ 2,000 ตัวอักษรจีน เจ้าเครื่องนี้มันพิเศษขนาดนั้นเลยล่ะ
แต่ดวงจะไม่ได้เกิดเนี่ยสิ เจ้าเครื่องนี้ก็ยังเป็นได้แค่สินค้าตัวอย่าง ไม่ได้ผลิดออกมาขายจริงๆ เพราะในเวลานั้นที่จีนเกิดสงครามกลางเมือง โรงงานในจีนก็ไม่มีใครสนที่จะผลิต โรงงานต่างประเทศก็ไม่อยากลงทุกเพราะการผลิตมันยาก สุดท้ายก็เลยต้องแห้วไป
แล้วหลังจากนั้นล่ะ?
จนปี ค.ศ. 1952 จางจี้อิง (张继英 | Zhāng Jìyīng) ได้เสนอวิธีการพิมพ์และแป้นพิมพ์แบบใหม่ ซึ่งต่อมาได้มารวมพัฒนาเป็นพื้นฐานระบบการพิมพ์เพื่อให้คอมเดาแบบในปัจจุบัน
ระบบที่ถูกพัฒนาต่อดันกลายเป็น เครื่องพิมพ์ดีดแบบซู (舒式打字机 | Shūshì dǎzìjī) ด้วยข้อดีของมันที่ผลิตได้ง่ายและราคาต้นทุนถูก ได้ถูกพัฒนาออกมาอีกหลายตัวที่โด่งดัง ได้แก่ เครื่องพิมพ์ดีดแบรนด์เหวินฮว่า (文化牌打字机 | Wénhuà pái dǎzìjī)、เครื่องพิมพ์ดีดแบรนด์ว่านเหนิง (万能牌打字机 | Wànnéng pái dǎzìjī)、เครื่องพิมพ์ดีดแบรนด์นกพิราบบิน (飞鸽牌打字机 | Fēigé pái dǎzìjī)、เครื่องพิมพ์ดีดแบรนด์นกพิราบคู่ (双鸽牌打自己 | Shuānggé pái dǎzìjī) แต่แม้จะพัฒนาแต่ไหนก็ยังพิมพ์ได้ไม่เกิน 50 ตัวอักษรต่อนาที
เมื่อเข้าสู่ยุคคอมพิวเตอร์แล้ว ภาษาจีนก็ได้มีวิธีการพิมพ์อีกหลายรูปแบบ แต่ที่ช่วยให้พิมพ์ได้เร็วที่สุดก็หนีไม่พ้นการพิมพ์ด้วยอักษรแทนเสียงแบบพินอิน (拼音 | pīngyīn) และจู้อิน (注音 | zhùyīn) ที่ร่วมกับ predictive text ทำให้เทคโนโลยีและความรู้ของจีนพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนเราได้มาใช้กันในปัจจุบัน
น่าเสียดายเหมือนกันที่เครื่องพิมพ์ดีดหมิงไคว่ (明快打字机 | Míngkuài dǎzìjī) ไม่ได้ผลิตออกมา ไม่อย่างนั้นอาจจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีและความรู้ในจีนมากกว่านี้ ทุกคนคิดว่าไงบ้าง คอมเมนท์มาคุยกันครับ
ติดตาม Tutustory 图图是道 เรื่องราวภาษาจีนย่อยง่ายๆ ด้วยภาพ หรือมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับภาษาจีนมาคุยกันได้ที่
อ้างอิง
- Tom Mullaney: The Chinese Typewriter: A History https://www.youtube.com/watch?v=KSEoHLnIXYk
- https://new.qq.com/rain/a/20211205A005JN00
- https://www.latimes.com/world/asia/la-fg-chinese-typewriter-snap-story.html