ปัญหาคลาสสิกของคนอยากเรียนภาษาจีนด้วยตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าหนังสือ เรื่องสั้น PodCast หรือคลิปวิดีโอนี้เหมาะกับตัวเองไหม ยากไปก็ท้อ ง่ายไปก็เบื่อ แถมอยากดูอย่ากอ่านไปหมดอีก ทำไงดี?
เราสามารถเก็บทุกอย่างที่ชอบได้ แต่ไม่ใช่ทุกอย่างจะเหมาะกับที่เราจะเอามาตั้งใจเรียนรู้ ขนาดซีรีส์ หนังสือที่ซื้อมายังมีคนแอบดองไว้เลย ขืนทำหมดตายพอดี ไม่เหลือเวลาทำอะไรแล้ว หนังสือก็ต้องอ่าน งานก็ต้องทำ แถมพลังสมาธิไม่พออีก เลยมาแชร์เทคนิคให้เลือกกันด้วยว่าชิวๆ หรือเอามาเรียนดี
มา! เดี๋ยวเกม Tutustory จะมาแนะนำวิธีง่ายๆ ที่เป็นเทคนิคส่วนตัวที่ใช้อยู่ เพื่อเลือกสื่อทื่ทั้งเหมาะกับความชอบเราและระดับที่เหมาะกับเราดู มี PDF แจกช่วยท้ายพร้อมบอกวิธีแจกด้วย แชร์เลย อย่าพลาดล่ะ
ขั้นที่ 0 | เข้าใจตัวเองก่อน ว่าเราชอบเรียนรู้แบบไหน
ก่อนจะเริ่มทั้งหมด แนะนำเลยว่าถามตัวเองกันก่อนเลยว่าเราเป็นคนที่เรียนรู้แบบไหน ชอบนั่งฟัง ดูคลิป หรืออ่านมากกว่ากัน ความรู้ที่เราสามารถรับได้ไม่ได้มีแค่วิธีเดียว แน่นอนว่าเราเองก็ไม่จำกัดว่าต้องเรียนรู้วิธีเดียวด้วย
🚨 คำถามที่ต้องถามตัวเอง: ลองเรียงลำดับดูว่าเราชอบอ่าน ดู หรือฟัง มากกว่ากัน?
💬 ถ้าตอบว่า:
- ถ้าตอบว่าอ่านมาก่อน: แน่นอนคุณมีแนวโน้มจะเหมาะกับบทความสั้น หรือ หนังสือ
- ถ้าตอบว่าดูมาก่อน: ก็เลือกคลิปสั้น วิดีโอ หนังหรือซีรีส์ไปเลย
- ถ้าตอบว่าฟังมาก่อน: อันนี้จะเลือกเป็น PodCast หรือวีดีโอก็ได้(ไม่ต้องดูภาพ)
คนคงแบบเอ๊ะมันก็ง่ายๆ ป่าว ใช่ครับ มันง่ายแค่นั้นแหละ แต่คำถามคือให้เรียงลำดับใช่ป่ะ ให้เรียง 1 2 3 สุดท้ายจะให้ฝึกหมดครับ 555 แต่อัตราส่วนไม่เท่ากัน ให้เป็น
- อันดับ 1 ปริมาณ 70% ของที่เราจะเลือก
- อันดับ 2 ปริมาณ 20% ของที่เราจะเลือกฝึก
- อันดับ 3 ปริมาณ 10% ของที่เราจะเลือกฝึก
เอาจริงข้อนี้อาจจะไม่ต้องตอบก็ได้ สามารถวัดจากสื่อที่เราชอบเซฟเก็บ อะไรเยอะสุดก็เลือกอันนั้นมาฝึกแหละ พอเห็นภาพของเราแล้วว่าเหมาะกับอะไรจะได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น มาเริ่มกันจริงๆ ดีกว่า
ขั้นที่ 1 | อ่าน ดู หรือฟังให้จบ 1 รอบ ห้ามหาศัพท์ก่อน!
ขั้นแรกนี้ง่ายๆ เลย ห้ามหาศัพท์ก่อน สำคัญมากๆ เป็นการทดสอบตัวเองว่าสื่อนั้นๆ เหมาะกับเราแค่ไหน ถ้าทำเสร็จก็ติ๊กซะ แต่เอาแค่รอบเดียวนะ
🚨 คำถามที่ต้องถามตัวเอง: ถ้าทำเรียบร้อยแล้วก็ติ๊กเลย
- [ ] ฟังจบ 1 รอบโดยไม่เปิดศัพท์เรียบร้อย
ขั้นที่ 2 | ฟังจบแล้วลองพยายามสรุปสิ่งที่เราเข้าใจดู
ฟังจบแล้วไม่พอ เอาจริงต้องพูดหรือเขียนว่าเรื่องที่เรา อ่าน ดู ฟัง นี่เป็นยังไง เกี่ยวกับอะไร หรือ ใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร เขียนหรือพูดอัดเสียงไว้ แล้วเดี๋ยวเรามาประเมินกันในขั้นต่อไป จะได้ไม่คิดเข้าข้างตัวเอง หรือ คิดว่ายากไป
🚨 คำถามที่ต้องถามตัวเอง: ถ้าทำเรียบร้อยแล้วลองเขียนหรืออัดเสียงสรุปสักที่นะ ใน PDF เราก็ได้
- [ ] เขียน/อัดเสียงสรุปเรียบร้อย
ขั้นที่ 3 | ประเมินความยาก ดูว่าเราเข้าใจกี่เปอร์เซ็นต์
มาตอนนี้น่าจะพอรู้ตัวแล้วว่าเข้าใจความหมายประมาณไหน ลองมาติ๊กกันดูว่าเข้าใจกี่เปอร์เซนต์ ลองติ๊กกันเลย
🚨 คำถามที่ต้องถามตัวเอง: เราเข้าใจเนื้อหาของสื่อนี้กี่เปอร์เซนต์ เลือกข้อที่ใช้สำหรับเราแล้วติ๊กเลย
- [ ] A. น่าจะอยู่ที่ 91% – 100% | ถ้าเขียนได้สบายๆ มีไม่รู้ความหมายนิดหน่อย
- [ ] B. น่าจะอยู่ที่ 61 – 90% | ถ้าเกาหัวแกรกๆ เดาความหมายประโยคหรือศัพท์ไม่ได้ไม่เกินครึ่งตอน
- [ ] C. น่าจะต่ำกว่า 60% | ถ้าเขียนไม่ออกเลย หรือ เขียนได้ไม่ถึงครึ่งตอน
ติ๊กแล้วเดี๋ยวไปดูกันตอนจบอีกทีว่าเป็นไง
ขั้นที่ 4 | เงื่อนไขอื่นๆ ลองดูแล้วติ๊กเลย
ยังมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่เราต้องดูด้วยนะว่าเหมาะสมไหม มาลองดูว่า 2 ข้อนี้ เข้าข่ายมั้ย
มาลองถามตัวเองกันว่า 👇
🚨 คำถามที่ต้องถามตัวเอง: รอบนี้ให้ติ๊กถูกในช่องว่างกันว่ามีกี่ข้อ
ถามเพิ่มเติมอีกหน่อย ติ๊กข้อที่ตรงเงื่อนไข
- [ ] ถ้าเอามาเรียน จะใช้เวลาน้อยกว่า 60 นาทีที่จะฝึกอย่างตั้งใจ รวมถึงจดศัพท์และสรุปด้วยใช่ไหม?
- [ ] ความรู้ที่จะได้จากเรื่องนี้ ตอนนี้ยังใช้ได้อยู่ไหม?
💬 ไปต่อกันที่สรุปผลเลย
สรุปผล | ดูยังไงว่าสื่อชิ้นนั้นๆ เหมาะกับที่เราจะเอามาเรียนรู้
มาถึงช่วงตัดสินใจแล้ว ว่าสื่อชิ้นนี้อ่ะ เหมาะไหมที่จะเอามาเรียนเอง หรือ ปล่อยจอยเสพย์แค่เพื่อความบันเทิงพอ
ที่เราทำมาทั้งหมดคือเพื่อจะทำ ข้อ 3 และข้อ 4 แบบไม่เข้าข้างตัวเองครับ เพราะฉะนั้นเราจะมาดูกันว่าเราตอบอะไรที่ ข้อ 3 และ ข้อ 4
💬 ข้อ 3 เราจะดูความยากที่เหมาะกับเรา ถ้าตอบว่า:
- A. 91% – 100% | ใช้อันนี้ก็ได้ แต่แนะนำให้หาระดับยากขึ้น
- B. 61 – 90% | ระดับกำลังท้าทาย ยิ่งถ้ารู้หรือเข้าใจเนื้อหาเยอะสัก 70% – 80% นี่เหมาะมากที่จะเอามาฝึก
- C. ต่ำกว่า 60% | ควรเลือกอันที่ง่ายขึ้น อันนี้ยากไป
💬 ข้อ 4 จะดูว่าคุ้มค่าที่จะเอามาเรียนไหม
- ถ้าติ๊กถูกทั้ง 2 ข้อ: แนะนำมากๆ เลยให้เอามาเรียนเลย หรือเก็บไว้ใช้เรียนเมื่อว่างครับ
- ถ้าไม่ครบ 2 ข้อหรือไม่ติ๊กเลย: แนะนำว่าใช้เสพย์แค่เพื่อความบันเทิงพอครับ เพราะเราอาจจะเสียเวลานานเกินไปที่จะเอามาตั้งใจเรียน หรือ แบ่งส่วนมาฝึกได้ แบบซีรีส์ก็ตัดตอนแค่บางช่วงมาตั้งใจดูทุกประโยค นอกนั้นดูไปเลย จดศัพท์เมื่อสนใจจริงๆ เอา
ลองเอาไปใช้กันดูนะ จะได้รู้เลยว่าอันนี้เราดูไว้เพื่อความบันเทิง ตามพระเอกนางเอก หรือเอามาเพื่อใช้เรียนรู้จริงๆ
แนะนำกิจกรรมอีกนิด ถ้าหากหาบทความสั้นภาษาจีน ตอนนี้เพจเราก็มีกิจกรรมฝึกอ่านภาษาจีน 30 วัน แบ่งตามระดับความยาก มีทั้งภาษาจีน คลิปเสียง แปลไทย พินอินและคำศัพท์ สนใจฝึกไปอ่านได้เลยที่นี่
https://tutustory.com/practice-chinese-30days-ss2/
ช่วงอยากแจก | PDF เอาไว้ใช้พิมพ์หรือไปเขียน ทำตามนี้เลย
เกมมีทำเป็น PDF แบบให้ติ๊กๆ ด้วยเลย เผื่อใครอยากเอาไปใช้เช็กว่า อันนี้เหมาะมั้ย แจกไปให้ใช้กับฟรีๆ ง่ายๆ แค่ไม่กี่ขั้นตอนตามนี้เลย
ขั้นตอนแจ้งขอ PDF file
- แชร์โพสนี้ใน Facebook หรือ Instagram ของคุณ
- Facebook Post อย่าลืมเปิดเป็น ‘สาธารณะ’ ด้วยนะ
- Instagram แชร์ลง Story และ แท็ก @tutu.story มาเลย
- แคปรูปที่คุณแชร์และส่งที่ LINE: @tutustory หรือ ที่ลิงก์นี้ได้เลยนะ https://lin.ee/8e2pyjO
- พิมพ์ pdftg1 พร้อมส่งรูปที่แคปมา
- รอแอดมินตรวจสอบ ไม่เกิน 24 ชม แล้วจะรีบส่งไฟล์ให้ครับ
จัดให้ฟรีๆ แล้ว อย่าลืมลองเอาไปใช้กันดูนะครับ ถ้าถูกใจแชร์ให้เพื่อนๆ ใช้กันได้เลยน้า
ติดตาม Tutustory 图图是道 เรื่องราวภาษาจีนย่อยง่ายๆ ด้วยภาพ หรือมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับภาษาจีนมาคุยกันได้ที่