“และมีดาวหางดวงหนึ่งที่ยังโคจรในอวกาศ…” ท่อนหนึ่งของเพลงที่ฮิตในช่วงนี้นี้ให้เราเห็นว่า หลายคนมองดาวหางฮัลเลย์ว่าโรแมนติกไปแล้ว แต่ก็เป็นแค่มุมมองของคนปัจจุบันเท่านั้น เพราะถ้าเป็นสมัยก่อนแล้วล่ะก็ว้าวุ่นแน่นอน เพราะพวกเขาไม่ได้มองว่าโรแมนติกเลย แต่มองว่าเป็นสัญญาณของหายนะที่จะมายังบ้านเมืองต่างหาก อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้พูดถึงในมุมมองของคนไทย แล้วคนจีนล่ะ? พวกเขามองดาวหางฮัลเลย์อย่างไร ตามมาอ่านกันครับ
ดาวหางฮัลเลย์ ตัวแทนสุดโรแมนติกของวัฒนธรรมสมัยใหม่ทั้งไทยและจีน
ทุกวันนี้ดาวหางฮัลเลย์ (Halley’s Comet) ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของความรักที่อาจจะฟังดูโรแมนติกยิ่งกว่าพระจันทร์ เพราะในขณะที่ดวงจันทร์ลอยล่องอยู่บนท้องฟ้าในยามค่ำคืนให้เราได้เห็นเกือบทุกวัน ดาวหางฮัลเลย์นั้นเดินทางไปไกลหลายล้านกิโลเมตรและวนกลับมาที่เดิม ราวกับได้ทำพันธสัญญากับโลกใบนี้ว่าจะกลับมาหาทุกๆ 75 ปี เลยทำให้วัยรุ่นมองว่าเหมือน “ความรักที่ซื่อสัตย์ มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง” นั่นเอง
หากพูดถึงดาวหางฮัลเลย์ในวัฒนธรรมไทยปัจจุบัน ก็คงหนีไม่พ้นเพลง “ดาวหางฮัลเลย์” ของ Fellow Fellow อยู่แล้ว เป็นที่นิยมขนาดที่ยอดวิวสูงถึง 30 ล้านวิว นอกจากดนตรีจะเรียบเรียงมาดีแล้ว เนื้อเพลงยังโรแมนติกกินใจ เช่นท่อนฮุคของเพลงที่ร้องว่า
ขออยู่ในชีวิตที่เหลือของเธอได้ไหม
อยากลืมตาแล้วได้พบเธอจนวันสุดท้าย
อยากเป็นคนที่ได้นอนดูดาวข้างเธออีกหมื่นวัน
และเอนไปจุมพิตเธอสักล้านครั้ง
อยู่กับฉันไปนานๆ นะเธอ
และยังมีท่อนร้องช่วงที่ 2 (verse 2) อีกที่เรียกได้ว่าเป็นการบอกรักแบบไม่มีคำว่ารักเลย
และมีดาวหางดวงนึงที่ยังโคจรในอวกาศ
ในช่วงชีวิตจะมีหนึ่งครั้งที่มองเห็นได้ด้วยตา
ดาวที่ฉันยังไม่เคยเห็นมาก่อน
ขอให้ถึงวันนั้น
ได้มีเธอรอดูมันด้วยกันกับฉัน
ส่วนทางจีนเองก็มีการใช้ดาวหางเป็นกิมมิกในซีรีส์ที่ชื่อว่า 彗星来的那一夜 (The Night of the Comet) ในปี 2019 และมีภาคสองตามมาในปี 2020 ซึ่งจุดร่วมของทั้งสองภาคก็คือ มีการใช้ดาวหางเข้ามาเป็นต้นเหตุของปรากฏการณ์ของคู่พระนาง และก่อให้เกิดความรักในเวลาต่อมา ถ้าให้สรุปก็คืออารมณ์หนัง “อุบัติรักดาวหาง” อะไรทำนองนั้น
แต่ในความเป็นจริง ทั้งคนไทยและคนจีนในสมัยโยราณไม่ได้มองว่าเป็นเรื่องโรแมนติกเลย แต่กลับมองว่าเป็นลางร้าย เช่น ในทางทฤษฏีห้าธาตุ (五行) ดาวหางเป็นการบ่งชี้ถึงการเสียสมดุลของหยินและหยาง นอกจากนี้ยังเชื่อว่านำพาภัยพิบัติมายังบ้านเมืองอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในบทความนี้จะขอพูดถึงความเชื่อของคนจีนเป็นหลักและจะอธิบายอย่างละเอียดในหัวข้อถัดไป
ความซวยที่(อาจ)มาพร้อมกับดาวหาง(ฮัลเลย์) ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
อย่างที่ได้บอกกันไปแล้วว่าในความเชื่อของคนจีน ช่วงที่ดาวหางปรากฎความซวยก็บังเอิญมาเยือนบ้านเมืองพร้อมๆ กันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มาลองดูตัวอย่างบางช่วงเวลาตลอดประวัติศาสตร์จีนกันว่าดาวหางฮัลเลย์โผล่มาที่จีนแล้วเกิดโชคดีโชคร้ายอะไรบ้าง
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงบันทึกที่เกิดขึ้นในช้วงเวลาไล่เลี่ยกัน อาจดูแล้วเกี่ยวข้องกัน แต่ในความเป็นจริงอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย ทั้งนี้เรื่องโหราศาสตร์เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้พิจารณญาณในการอ่าน
หลายคนอาจสงสัยว่าลางไม่ดีที่เกิดจากดาวหางนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไรจากไทม์ไลน์ที่ร่ายมาก็น่าจะเห็นถึงความบังเอิญของเหตุการณ์กับการปรากฎของดาวหางแล้ว จึงไม่แปลกที่จะเข้าใจไปแบบนั้น
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิมากเป็นพิเศษได้อย่างไร คำตอบที่พอจะตอบได้ก็คือ เพราะคนจีนมีความเชื่อว่าปรากฏการณ์บนท้องฟ้าอย่างดาวหาง ดาวตก หรือสุริยุปราคาเป็นสิ่งผิดปกติบนท้องฟ้า จึงเชื่อว่าเป็นลางร้าย และจักรพรรดิตามความเชื่อของจีนคือ “โอรสสวรรค์” (天子) การที่ท้องฟ้าเกิดปรากฏการณ์บางอย่างขึ้น ก็เหมือนกับเป็นการสื่อสารจากสวรรค์กับจักรพรรดิโดยตรง ซึ่งแต่ละพระองค์จะรับรู้ว่าอย่างไรบ้างก็คงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
เห็นแสงเเวบรีบขอพร ร้อยวันพันปีไม่เคยจะให้พรใดๆ เพราะขอผิดดวงหรือเปล่า?
ว่ากันว่าถ้าดาวพาดผ่านท้องฟ้า ให้รีบขอพรขอพรแล้วจะสมหวัง แต่เคยเช็กกันหรือเปล่าว่าเป็นดาวหางหรือดาวตกกันแน่ บางทีอาจเป็นเพราะว่าเราไปขอพรดาวหางที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลางร้ายก็เป็นได้
แล้วดาวหาง (彗星) กับดาวตก (流星) ต่างกันอย่างไร ตามมาอ่านกันต่อเลย
- ดาวหาง (彗星) คือวัตถุที่มีหินและน้ำแข็งเป็นส่วนประกอบ เมื่อเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ส่วนที่เป็นน้ำแข็งจะระเหิดกลายเป็นแก๊ส หลังจากนั้นแสงอาทิตย์จะผลักให้แก๊สเหล่านั้นกระจายกลายเป็นหาง และถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าดาวหางมี 2 หาง ก็คือ หางแก๊สและหางฝุ่น และลักษณะการกระจายตัวของหางคล้ายกับไม้กวาด และคำว่า 慧 จริงๆ แล้วความหมายเดิมคือ ‘ไม้กวาด’ (扫把) จึงเป็นที่มาของการเรียกดาวหางในภาษาจีนว่า 彗星 นั่นเอง
- ส่วนดาวตก (流星) คือสะเก็ดดาวที่ลอยอยู่ในอวกาศ แล้วถูกแรงดึงดูดของโลกดูดเข้ามาให้เราเห็นบนท้องฟ้า เมื่อผ่านชั้นบรรยากาศสะเก็ดดาวจะลุกไหม้ ทำให้เกิดแสงสว่างเป็นเส้นตรงอย่างที่เราเห็นกัน หากมีสะเก็ดดาวหลายดวงถูกดูดเข้ามา เราก็จะเห็นเป็นฝนดาวตก (流星雨) นั่นเอง
แต่อย่างที่รู้กัน ปัจจุบันในยุคที่วิทยาศาสตร์พัฒนาแล้ว ผู้คนก็ไม่ได้มองว่าดาวหางเป็นลางร้ายเหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป ฉะนั้นใครจะขอพรจากดาวหางหรือดาวตกก็ขอไป ใครจะให้ดาวหางเป็นสัญลักษณ์ของพันธสัญญาแห่งความรักก็ไม่มีปัญหา เพราะเอาจริงๆ มันคือความสวยงามทั้งบนท้องฟ้า วัฒนธรรมและภาษาที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา
บทความนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง @kan_tsing และ Tutustory เพื่อถ่ายทอดมุมมองภาษาและวัฒนธรรมที่คุณอาจจะไม่ทันคิด
เขียนและเรียบเรียงโดย @kan_tsing
เรียบเรียงและภาพโดย Tutustory
อยากอ่านเนื้อหาผสมผสานภาษาและวัฒนธรรมติดตาม @kan_tsing ได้เลย
ติดตาม Tutustory 图图是道 เรื่องราวภาษาจีนย่อยง่ายๆ ด้วยภาพ หรือมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับภาษาจีนมาคุยกันได้ที่
อ้างอิง
- https://articles.adsabs.harvard.edu//full/1934PA…..42..191T/0000192.000.html
- https://taiwantoday.tw/news.php?unit=12,14,29,33,34,45&post=22572
- https://www.worldhistory.org/Tang_Dynasty/
- https://www.163.com/dy/article/FTSV52N90529L0MJ.html
- https://www.zdic.net/hans/%E5%BD%97
- https://www.academia.edu/82694412/COMETS_AND_POLITICAL_ANXIETIES_IN_THE_FIRST_HALF_OF_THE_NINTH_CENTURY_NEW_LIGHT_ON_COMETS_X_839_B1_AND_X_841_Y1
- https://www.silpa-mag.com/history/article_117349
ภาพจาก
- https://zh.wikipedia.org/zh-cn/%E7%A7%A6%E5%A7%8B%E7%9A%87
- https://zhuanlan.zhihu.com/p/343148294
- https://feeds-drcn.cloud.huawei.com.cn/landingpage/latest?docid=1051178OCMSb283a8ae12417767_si_-2&to_app=hwbrowser&dy_scenario=relate&tn=2b6cacc7b0ad37055cfb80397cca51e35a65976530aecbe38ce098605646aa99&channel=-1&ctype=news&cpid=666&r=CN&ifl=zh_CN&sdkVersion=&emuiver=#/
- https://www.sohu.com/a/489474667_826848
- https://www.sohu.com/a/238614218_244507
- https://ja.wikipedia.org/wiki/%E7%9D%BF%E5%AE%97_%28%E5%94%90%29
- https://zh.wikipedia.org/zh-cn/%E5%94%90%E7%8E%84%E5%AE%97
- https://zh.m.wikipedia.org/wiki/%E5%94%90%E6%96%87%E5%AE%97
- https://zh-classical.wikipedia.org/wiki/%E6%88%90%E5%90%89%E6%80%9D%E6%B1%97https://www.sohu.com/a/345617994_719098