เขียนเรื่องหนักๆมาเยอะละ มาเรื่องเบาๆ สำหรับผู้เริ่มต้นกันบ้างดีกว่า วันนี้จะมาแชร์เรื่องเทคนิกการเรียนภาษาจีนง่ายๆ ที่ทำให้ก้าวกระโดดได้ดียิ่งขึ้น มาเริ่มกันเลย～
การเรียนภาษาจีน โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะเรื่องคำศัพท์ ตัวอักษร ไวยกรณ์ ธรรมชาติของภาษา การออกสียง แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถและความพยายามของเราเลย หลายๆคนอาจจะมุ่งมั่นที่เจะเรียนในตำรา ชั้นเรียน แต่ก็อาจจะรู้สึกว่าไม่ไปไหน วันนี้ สร้างภาพเล่าเรื่อง 图图是道 เลยสรุปเทคนิกพื้นฐานที่ทำเป็นประจำแล้วจะช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาจีนให้ดีขึ้นได้ไวยิ่งขึ้น มาลองดูกันว่ามีอันไหนเหมาะกับเราบ้างได้ในแต่ละรูปเลย
1 พยายามจัดเวลาให้ได้สัมผัสภาษาจีนทุกวัน
ภาษาเป็นสิ่งที่ต้องใช้ ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง หากเปรียบเทียบคนที่เรียนแค่สัปดาห์ละ 3 ชั่วโมงในห้องเรียน และ ไม่ทำอะไรอีกเลย เป็นเวลา 2 ปี กับคนที่เรียนในห้องเรียน 3 ชั่วโมง แต่ทำแบบฝึกหัด ดูซีรีย์ พยายามแต่ประโยคนอกเวลาเรียนวันละ 15 นาทีทุกๆวันตลอด 1 ปี คนที่สองจะพัฒนาได้เร็วกว่า เพราะสมองได้รับการฝึกอยู่ทุกวัน
แต่จัดเวลาเล็กๆ น้อยๆ ทำกิจกรรมง่ายๆเกี่ยวกับภาษาจีนในแต่ละวัน อาจจะเป็นการดูซีรีย์ คลิปสั้น ทำแบบฝึกหัด ผลัดๆกันไปให้ครบ ฟัง พูด อ่าน เขียน หรือถ้าจะให้ดึก็อาจจะให้เวลามากขึ้นเท่าที่จะให้ได้ และวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพ ลองทำสัก 3 เดือนจะเห็นพัฒนาการอย่างชัดเจนเลย
2 ตั้งเป้าหมายให้ชัด และจับต้องได้
“อยากพูดเก่งๆ” “เอาแค่พอสื่อสารได้” เป็นเป้าหมายที่คลุมเครือและวัดผลได้ยาก แถมยิ่งทำให้ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร นานแค่ไหนกว่าจะถึงเป้าหมายนั้น
ลองเปลี่ยนเป้าหมายให้จับต้องได้ในแต่ละระยะ เช่น ระยะสั้น ฉันจะใช้พินยินให้ได้อย่างคล่องแคล่วภายใน 1 เดือน ระยะกลาง ฉันจะไปเที่ยวจีนโดยสั่งข้าวเอง ถามทางเองได้ภายใน 6 เดือน และ ระยะยาว ฉันจะดูซีรี่ย์ให้เข้าใจได้โดยเดาคำศัพท์ และเข้าใจความหมายทั้งหมดได้ใน 1 ปี เป็นต้น
เมื่อเห็นเป้าหมายที่จับต้องได้เหล่านี้ เราจะวางแผนได้ว่าควรจะฝึก จะหาความรู้อะไรเพิ่มเติม และพัฒนาได้ง่ายขึ้น
3 เหล่าซือให้การบ้านอะไรมา ทำให้หมด ทำเพิ่มอีกยิ่งดี
เทคนิกที่ง่ายที่สุดและทำได้ทันที การบ้านที่เหล่าซือให้ทำให้ครบ จะได้ทบทวนสิ่งที่เรียนไป ไม่ว่าจะเป็นแบบฝึกหัด ท่องศัพท์คัดอักษร ท่องบทสนทนา เเต่งบทความ ทั้งหมดนี้ช่วยพัฒนาทักษะได้เป็นอย่างดี ถ้าจะให้ดีควรอ่านบทเรียนล่วงหน้า เมื่อได้เรียนในคลาสต่อไป เราจะได้เข้าใจได้ไวขึ้น สงสัยอะไรจะได้ถามได้ทันที
4 จดบันทึกสิ่งที่เรียนรู้ และทวนมันเป็นระยะ
ความจำของคนมี่ทั้งระยะสั้นและระยะยาว การจดบันทึกสิ่งที่เรียนรู้เป็นภาษาของตัวเอง มีส่วนช่วยให้สิ่งที่เราได้เรียนรู้ไปอยู่ในส่วนของความจำระยะยาวได้ดีขึ้น จะบันทึกใส่สมุดเล็กๆ ที่พกติดตัว หรือแอพต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือก็ได้ แนะนำว่าควรจดบันทึกสิ่งที่เรียนรู้ทั้งในห้องเรียน และ ที่ไปใช้จริง
จดอย่างแล้วแล้วปล่อยเลยยังไงก็ลืม เอาที่จดมาอ่านทวน มาลองใช้เป็นระยะจะช่วยให้จำได้อย่างถาวร เดี๋ยวนี้มีหลักการในการทวนหลายแบบลองหามาใช้และปรับให้เข้ากับตัวเองได้เลย ของแอดมินใช้เทคนิก Space Repetition อยู่ ไว้คราวหน้าจะมาแชร์นะ
เนื้อหาที่ยกตัวอย่างในรูป ไปอ่านต่อได้
5 เรียนแล้วก็ต้องเอามาใช้ สมองจำด้วยบริบทและเรื่องราว
สมองของเราไม่ได้ท่องๆ ไปแล้วจะจำได้หรือเอามาใช้ได้เลย สมองเรามักจะจำเป็นเรื่องราวและบริบทที่ตามมา หลายๆ คนคงเจอสถานการณ์ประมาณว่า ฉันจำศัพท์นี้ได้แต่ใช้ไม่ถูกสักที หรือ บางทีก็อาจจะนึกไม่ค่อยออก วิธีนี้แก้ได้ไม่ยาก คืออย่าจำคำศัพท์เดียวโดดๆ เอามาแต่งประโยคไว้ และเขียนสถานการณ์ที่ต้องใช้ เหมือนเตรียมตัวล่วงหน้า พอเจอสถานการณ์คล้ายกัน จะหยิบมาใช้ได้ทันที
หลักการนี้ใช้ได้กับเนื้อหาอื่นๆเหมือนกัน ผู้เริ่มต้นหลายคนมักจะเจอปัญหาเวลาต้องพูดตอบโต้ก็ไม่รู้จะตอบอะไร นึกไม่ออก การรู้บทสนทนา ท่องไว้และเชื่อมโยงสถานการณ์ไว้ จะช่วยให้เรารู้ว่าควรจะพูดอะไรหน้างานได้ดีขึ้น ถ้าเจอประโยคที่ชอบ ก็ลองเอามาทำเป็นบทสนทนาไว้ หรือ แต่งข้อความสั้นๆไว้ใช้ก็ดีเหมือนกัน
เนื้อหาที่ยกตัวอย่างในรูป ไปอ่านต่อได้
6 不要怕做错误 เอาไปใช้เถอะ ไม่ต้องกลัวผิด
การเรียนรู้จากการใช้จริง ช่วยให้เราจำได้ดีขึ้นเยอะมากๆ ไปลองพูด แชท เขียนบทความ หรือ ทำอะไรก็ได้ ใช้ไปเลย ยิ่งถ้าหากใช้กับเจ้าของภาษาหรือคนที่มีความรู้ภาษาจีนมากกว่าเรายิ่งดี หากผิดจุดไหนเดี๋ยวเขาจะบอกเรา แล้วเราจะจำได้ดียิ่งขึ้น
สิ่งที่ต้องคำนึงจริงๆ คือการรับฟีดแบ็ก ถ้าเราไม่ชอบให้ถูกแก้ถี่ๆ ชอบให้รวมทีเดียว หรือชอบแบบไหนต้องบอกคนที่ช่วยเราด้วย จะได้ไม่รู้สึกท้อและเหนื่อยจนล้มเลิกไปก่อน
7 找你学中文的动机 หาแรงกระตุ้น หรือ แรงบันดาลใจของตัวเอง
เส้นทางการเรียนภาษาเหมือนการวิ่งระยะสั้นๆ หามรุ่งหามค่ำแล้วจะจบ แต่เหมือนการวิ่งมาราธอน จะวิ่งช้าวิ่งเร็ว แต่ก็ต้องวิ่งกันอย่างยาวนานอยู่ดี หรือยกอีกมุมมองนึงการเรียนภาษาก็เหมือนกับความรักที่มีทั้งรักและเหนื่อย เราจะหาวิธีประคองยังไงให้อยู่รอดเมื่อเราท้อกันเป็นกุญแจที่ไม่ทำให้ล้มเลิกกลางทางเลย
การหาแรงกระตุ้น หรือแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาจีน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากและเปรียบเหมือนเป้าให้เราเกาะ เหมือนบ้านให้กลับมาพักเวลาเหนื่อยได้ หลายๆคนมีดาราจีนที่ชอบ ชอบดูซีรีย์จีน ฟังเพลงจีน ก็ใช้เป็นแรงบันดาลใจได้ดี
สำหรับคนที่เรียนเพื่อการทำงานอาจจะต้องทำการบ้านหน่อยว่าเรามีแรงกระตุ้นหรือแรงบันดาลใจเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงช่วงเวลาที่เราท้อไหม อาจจะมองหา เช่น เราชอบบรรยากาศที่เราพูดเป็นภาษาจีนแล้วมีคนชมก็พยายามสร้างโอกาสให้มากขึ้น หรือนอกเหนือจากเพื่องาน ภาษาจีนใช้เพื่ออย่างอื่นที่ช่วยทำให้เรามีความสุขได้บ้างไหม ถ้าหาเจอคุณจะเรียนภาษาจีนได้อย่างต่อเนื่อง รู้ตัวอีกทีก็ใช้ได้อย่างคล่องแคล่วแล้วล่ะ
8 สื่อต่างๆ ที่เป็นภาษาจีน เป็นตัวช่วยที่ดีเลยล่ะ
จะหนังสืออ่านเล่น ซีรีย์จีน เพลงจีน พอดแคสต์ภาษาจีน 抖音 (ติ๊กต็อกจีน) วิดีโอสั้น บทความ หรือสื่ออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้คุณได้ใช้ภาษาจีนเยอะขึ้น เสพย์มันเลย ทั้งเพื่อความบันเทิง และ เรียนรู้จากสื่อเหล่านี้
แต่อยากให้เรียนรู้อย่างเป็นระบบด้วย หยุดอ่านบ้าง หยุดวีดีโอบ้างเป็นระยะ มีประโยคไหนที่พูดแล้วน่าสนใจ จด คำศัพท์ใหม่ ก็จด แล้วเอามาทวนบ้าง นอกจากจะเรียนรู้ว่าใช้ยังไง เพิ่มทักษะทางภาษาของเรา แล้วยังรู้อีกด้วยว่าภาษาเดี๋ยวนี้เขาใช้ยังไงกันบ้าง ดีกว่าเรียนรู้แค่ในตำรานะ แถมน่าเบื่อน้อยกว่าด้วย
9 หาบัดดี้เรียนภาษา หรือลองเข้าร่วมอีเวนท์เกี่ยวกับภาษา
เรียนภาษาคนเดียวบางทีอาจจะน่าเบื่อ ถ้ามีเพื่อนในชั้นเรียนก็ตั้งกลุ่มไว้แชร์ไว้ทวนกัน แต่ถ้าไม่มีล่ะ หรือ อยากคุยกับคนเก่งหรือเจ้าของภาษาล่ะ ไม่ยากเลย เดี๋ยวนี้มีหลายวิธีให้เราเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นแอพเพื่อหาเพื่อนแลกเปลี่ยนการเรียนภาษากัน เราสอนภาษาไทย หรืออังกฤษให้เขา เขาสอนภาษาจีนให้กันก็ทำได้ หรือจะแค่คุยๆกับวันละภาษาเพื่อพัฒนากันทั้งสองฝ่ายก็ทำได้ แอพแบบนี้ที่นิยมกันก็มี Tandem และ HelloTalk ไปลองโหลดกันดู
อีกวิธีถ้าอยากเจอกันตัวเป็นๆ (แต่ช่วงนี้อาจจะยากหน่อย) จะมีกลุ่มต่างๆของผู้ที่ชื่นชอบภาษาหลากหลายชาติ รวมตัวกันเพื่อจัดอีเวนท์เป็นระยะๆ ให้คนได้มาพูดคุยกันในภาษาต่างๆกันตามที่ตัวเองสนใจได้ อีเวนท์แบบนี้ไม่ต้องกลัวผิดเลย ช่วยให้กล้าแสดงออกมากขึ้นด้วย เพราะทุกคนมาเพื่อเรียนรู้กันจริงๆ อาจจะมีค่าเข้าบ้างเพราะเขาเช่าสถานที่ให้เรา แต่ก็ให้ตั๋วมาเอาไปแลกเครื่องดื่มฟรีอยู่ดี ฮ่าๆ ลองหาอีเวนท์ดูได้จาก https://www.meetup.com/ เป็นต้น แต่ยังไงก็อยากให้เช็กด้วยว่าเป็นอีเวนท์ที่ได้รับความนิยมจะมีโอกาสเจออีเวนท์ที่ดีได้มากกว่านะ ไปลองกันดู
10 ขี้อาย ไม่มีเวลา ไม่เป็นไร มีหลายวิธีช่วยเราได้
เจอคนใหม่ๆ เยอะๆ ก็ไม่กล้าหรือจะให้ไปตลอดก็ไม่มีเวลาไม่พอ ไม่เป็นไร เดี๋ยวนี้โลกไปไกลแล้ว เราฝึกด้วยตัวเองก่อนได้หลากหลายวิธีเลย แอดลองยกตัวอย่างให้ตามนี้
- ถ้าอยากฝึกพูดก็ทำ Shadowing ได้ เอาคลิปต่างๆ มาฝึกพูดเลียนแบบให้เหมือน อัดวีดีโอตัวเองพูดไปจนกว่าจะเหมือน ทำซ้ำๆ รู้ตัวอีกทีก็พูดสำเนียงดีขึ้นแถมได้ประโยคมาไว้ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ด้วย
- ฝึกฟัง ผู้เริ่มต้นอาจจะเริ่มจากคลิปสั้นๆ จาก YouTube หรือ Tiktok ก่อนก็ได้ เอาที่มีซับจีนด้วย ฟังซ้ำๆ และลองปิดซับ เขียนดูว่าฟังได้ตรงไหม ถ้าตรงก็ไปต่อ
- ฝึกเขียน เอาคำศัพท์มาแต่งประโยค แต่งเรื่อง แต่งบทความ สะสมเก็บไว้ หรือจะส่ง จะโพสให้คนช่วยตรวจด้วยก็ยิ่งดี
- ฝึกอ่าน อ่านข่าวเลยอาจจะยากไปสำหรับบางคน ลองหาหนังสือบทความสั้น หรือ หาบทความในสาขาที่เรามีความรู้พอจะเดาได้ สมมติเราชอบเรื่องไอโฟน ลองหาบทความไอโฟนสั้นๆ มาอ่านดู คำไหนไม่รู้อย่าเพิ่งเปิด จดไว้ และลองเดาดูก่อน แล้วค่อยมาเช็กตอนอ่านจบไปอย่างน้อย 1 ย่อหน้า ถ้าจะให้ดีคือจบบทความเลย ถ้าเดาถูกเราจะจำได้ดียิ่งขึ้นด้วย ถ้าเดาผิดก็จะได้รู้ว่าเขาใช้กันยังไง
จริงๆ ยังมีอีกหลายเทคนิกเลย ใครมีอะไรมาแชร์ๆกันได้เลยนะครับ เผื่อแอดจะเอาไปใช้บ้าง 55
เล่ามาซะเยอะ แต่ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดนะ แค่เลือกที่เหมาะกับตัวเอง เวลา และ ระดับความสามารถ หรือใช้วิธีอื่นเลยก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือการทำ การฝึกอย่างสม่ำเสมอนอกเหนือจากการอ่านแค่หนังสือเรียน สิ่งเหล่านี้จะยิ่งช่วยให้การใช้ภาษาจีนของเราดีและกว้างยิ่งขึ้น 坚持就是胜利！ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเรียนภาษาจีนครับ
อยากรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับภาษาจีน มาคุยกันได้เลย
ทางติดตาม
เทคนิคการเรียนรู้อื่นๆ
