มาแล้วกับตอนที่ 3 ของ สร้างระบบเรียนภาษาด้วยตัวเอง ในตอนที่แล้วเราพูดถึงการร่างระบบการเรียนรู้ของตัวเอง และ ที่แอดมินทำไว้ใช้ ตอนนี้เราจะมาเล่าถึงการใช้เทคโนโลยีมาช่วยให้การเรียนรู้ภาษาจีนให้ง่ายขึ้น อย่างเป็นระบบ และ เพิ่มกระบวนการจำได้ดีขึ้น
ในบทความนี้จะเน้นเล่าไปที่วิธีการใช้งาน Template ของ Notion ที่แอดมินสร้างขึ้นมาใช้เนื่องจากตัวโปรแกรมค่อนข้างทรงพลัง สามารถปรับ flow ได้ตามที่ต้องการ เลยทำให้ต้องอธิบายเยอะตามไปด้วย อาจจะมีพูดถึงการสร้างขั้นตอนการเรียนรู้และทฤษฎีที่เกี่ยวข้องแบบไวๆ ถ้าหากอยากอ่านเพิ่มเติมจริงๆ อ่านได้ที่ ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 เลยครับ
บทความนี้อาจจะยาวและละเอียดหน่อย ยังไงเซฟเก็บไว้อ้างอิงได้นะครับ สนใจอ่านส่วนไหนเป็นพิเศษกดได้ที่ Table of Content เพื่อข้ามไปอ่านได้เลยครับ
ในส่วนของการใช้งานโปรแกรม จะไม่ลงรายละเอียดเนื่องจากมี YouTuber หลายๆท่านเล่าไว้แล้ว เดี๋ยวจะแปะลิงค์วีดีโอไว้ให้ไปดูเรื่องการใช้งานเบื้องต้นกันนะครับ
ที่สำคัญ! แอดมินเอง Template ที่ใช้อยู่มาแจกด้วย ติดตามรายละเอียดในช่วงท้ายบทความได้เลย! มา! เข้าเรื่องกัน
[อัพเดท] แอดมินเพิ่มไลฟ์ที่ได้สอนการใช้ Notion ไปเมื่อ 31 ก.ค. 2021 ที่ท้ายบทความ อ่านจบแล้วยังสงสัยยังไงกดดูกันได้เลย
- Notion คืออะไร ทำไมถึงเลือกใช้
- เรียนธรรมดาไม่ได้เหรอ ทำไมถึงต้องใช้แอพช่วย
- กระบวนการเรียนรู้เดิม ปัญหาคือข้อมูลกระจัดกระจาย
- 主页 หน้าแรก แหล่งรวมทุกอย่าง
- เอา Notion มาใช้จัดการ Input ใหม่ให้ดียิ่งขึ้น
- การใช้ Spaced Repetition เพื่อช่วยจัดเวลาทบทวน
- 主系统 ใช้งาน Dashboard ให้เป็น ช่วยให้สร้าง Output ง่ายขึ้น
- แนะนำวิธีการทวน Main Output รายวัน
- 补充系统 ฝึกฝนเฉพาะอย่าง ช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตั้ง 活动
- 活动 การใช้งานหน้ากิจกรรมที่สร้างขึ้นใหม่
- บันทึก Facebook Live สอนการใช้ Template นี้
Notion คืออะไร ทำไมถึงเลือกใช้
มาทำความรู้จัก Notion กันดีกว่า Notion เป็นแอพหรือโปรแกรมที่มีจุดยืนว่า “All-in-one workspace” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า พื้นที่ทำงานที่จบในที่เดียว ใช้ทั้งพิมพ์รายละเอียดต่างๆ และ เอาสื่อมาแปะเพื่อทำเป็นเหมือน โน๊ต หรือ Wiki อีกทั้งยังมีการสร้างฐานข้อมูล (Database) เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ได้อีกหลากหลาย เช่น การกำหนดเวลา การแยกประเภท การเลือกข้อมูลที่จะแสดงได้ตามเงื่อนไข สามารถนำไปใช้เป็นโปรแกรมบริหารจัดการงานของทีมได้เลย ที่สำคัญคือมีความอิสระเป็นอย่างมากในการปรับแต่งให้ได้ตามที่ต้องการ
โครงสร้างของ Notion หากจะอธิบายง่ายๆ จะสรุปได้ดังนี้
- Page หรือ หน้า เพื่อใส่ข้อมูลอะไรก็ได้ รวมไปถึง Database หรือฐานข้อมูลด้วย
- Database หรือ ฐานข้อมูล คือพื้นที่ที่ใช้กรอกข้อมูลเข้าไป ซึ่งจริงๆ มันก็คือตารางนั้นแหละ เราก็กำหนดช่องต่างๆ ได้เหมือน MS Excel ทีนี้ในตารางเนี่ย มันก็ยังสามารถเปิดออกมาเป็นหน้า เพื่อใส่ข้อมูลได้เหมือน Page หรือ หน้า อีก แถมตัวตารางเอง ก็ยังเปลี่ยนรูปร่างต่างๆ ได้อีก เรียกว่า View
- View หรือ มุมมอง ให้นึกถึงตารางข้อมูลที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอได้ ไม่ว่าจะเป็น ตาราง ปฎิทิน ทามไลน์ การ์ดเหมือน Trello หรือ เป็นแกลเลอรี่ เพื่อให้เหมาะสมกับข้อมูล แถมยังสามารถเขียนสูตรคล้าย MS Excel เพื่อให้ทำงานตามเงื่อนไขที่วางไว้
คนนิยมนำมาใช้กัน ตั้งแต่ทำเป็นแหล่งข้อมูลให้ทีมค้นคว้า เป็นบันทึกต่างๆ เป็นโปรแกรมเพื่อติดตามและบันทึกข้อมูลว่างานไปถึงไหนแล้ว
ล่าสุด Notion ได้ออก Notion API มาซึ่งทำให้สามารถเชื่อมต่อกับบริการอื่นๆได้อีก เช่น Google Calendar เป็นต้น อาจจะได้เห็นความทรงพลังของโปรแกรมนี้ขึ้นไปอีกขั้น
Notion สามารถใช้ได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และ มือถือ
ส่วนตัวผมใช้บนคอมพิวเตอร์เป็นหลักเนื่องจากใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ก็จะใช้ร่วมกับ iPad เนื่องจาก iPad OS รองรับการเขียนด้วยปากกาเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีนแล้ว ช่วยให้การฝึกการเขียนทำแค่ครั้งเดียว ไม่ต้องเสียเวลาเพราะระบบเอาอักษรที่เราเขียนแปลงเป็นตัวพิมพ์ให้เรียบร้อยครับ
ใครที่ยังใช้ Notion ไม่เป็น แนะนำให้ดูวีดีโอสอนการใช้งานจาก เพจ DataRockie ก่อนนะครับ ในคลิปจะมาแนะนำการใช้งานเบื้องต้นอย่างละเอียด สามารถดูได้ที่ลิงค์นี้ครับ
เรียนธรรมดาไม่ได้เหรอ ทำไมถึงต้องใช้แอพช่วย
ทำไมต้องใช้แอพช่วย? เราก็แค่เรียนแบบเดิมไม่ได้เหรอ? นี่น่าจะเป็นคำถามที่ผู้อ่านกำลังสงสัยกันอยู่แน่ๆ การเรียนภาษาเอาจริงๆ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่แต่ละคนถนัดครับ เราควรจัดให้เรียนรู้ตามแนวที่เราชอบเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับผม ผมเป็นคนถ้าเขียนในกระดาษอย่างเดียวแล้วจะค้นหาไม่เจอ ยิ่งบางทีความรู้บางอย่างนานๆ ไป จะกลับหามาอีก ก็ไม่รู้ว่าไปเก็บไว้ไหน การเรียนรู้ภาษาเองก็มีรายละเอียดหลายอย่างกระจัดกระจาย มีทั้งคำศัพท์ รายละเอียดไวยกรณ์ที่เราสนใจบางทีก็อยากจะบันทึกความเข้าใจของตัวเอง เลยเป็นที่มาของการที่เอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก แต่เมื่อใช้แล้วก็ยังเจออีกว่า เฮ้ย! มันทำได้มากกว่านั้นนะ เลยพัฒนามาถึงจุดนี้แหละ หากจะให้ไล่ข้อดีเป็นข้อๆ ก็ไล่ได้เลยตามนี้
- เป็นคลังเก็บข้อมูลรวมทุกอย่างได้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นคลิปวีดีโอ คลิปเสียง บทความจากเน็ท รูปภาพ ส่วนอะไรที่เราเขียนอยู่ข้างนอกก็แสกนหรือถ่ายรูปมาเก็บได้ ในระยะยาว เราจะมีคลังข้อมูลขนาดใหญ่เป็นของตัวเองให้กลับมาค้นคว้าได้อย่างรวดเร็ว
- มีระบบค้นหา สะดวก หาอะไรก็เจอ อยากหาอะไรแค่เลือกช่องค้นหาก็ได้ข้อมูลที่เป็นของเราเองออกมา
- เป็นเครื่องมือช่วยให้เราทำตามแผนการเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น อย่างที่ได้เล่าไปในตอนที่ 2 ผมร่างวิธีการเรียนรู้แบบต่างๆ และนำมาใช้ใน Notion ให้เราเรียนรู้ตามขั้นตอนที่เราวางไว้ ทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน
- ให้โปรแกรมช่วยบอกเราว่าควรทบทวนอีกทีเมื่อไหร่ ตามที่เคยเล่าเรื่อง Spaced Repetion ไปในตอนที่ 1 แล้ว Notion สามารถเขียนสูตรเพื่อให้ทำกระบวนการบางอย่างได้ เลยนำมาปรับใช้ให้โชว์ในหน้ารวมว่าแต่ละวันควรทบทวนอะไรบ้าง และทบทวนอีกทีเมื่อไหร่
- ช่วยให้ทบทวนสิ่งที่จำผิดหรือยังไม่เข้าใจได้อย่างตรงจุด ปัญหานึงของการทบทวนแบบเดิมๆ คือการทวนทั้งหมดซึ่งเราต้องทวนทั้งสิ่งที่เราจำได้ดีและส่วนที่เราไม่เข้าใจ แต่การใช้ Spaced Repetition เพื่อแยกส่ิงเหล่านี้ออกจากกัน ช่วยให้ทบทวนเน้นส่วนที่ไม่เข้าจริงๆ มากขึ้น และ ใช้เวลาโดยรวมน้อยลง
จริงๆข้อดียังมีอีกเยอะครับ แต่นี่เป็นข้อดีใหญ่ๆที่เห็นได้ชัด ส่วนในเรื่องของข้อจำกัดเนี่ย คือ Notion ใช้เขียนไม่ได้ เลยอาจจะทำให้เป็นการกรอกข้อมูลซ้ำบ้างในบางกรณี แต่ถ้าแค่ต้องการเก็บข้อมูลไว้ก็ถ่ายรูปไว้ได้
กระบวนการเรียนรู้เดิม ปัญหาคือข้อมูลกระจัดกระจาย
การเรียนรู้จะมีทั้งส่วนที่นำความรู้เข้ามาและการนำความรู้ออกไปใช้ Template นี้ได้ออกแบบเพื่อให้กระบวนการทั้งสองอย่างทำได้อย่างเป็นระบบ เรามาเข้าส่วนที่นำความรู้เข้าก่อนกันดีกว่า จากนี้ไปจะขอเรียนกระบวนการนี้ว่า Input นะครับ
Input ที่ผมออกแบบเนี่ย ผมสังเกตจากการเรียนรู้ของตัวเองว่า การที่เราจะเรียนรู้อะไรสักอย่าง มันต้องมีสื่อมาให้เราเรียนรู้ เช่น หนังสือ, Video, Social Media Posts, Podcast เป็นต้น เราจะเรียนรู้เรื่องราวจากสิ่งนั้นๆ และค่อยย่อยรายละเอียดออกมาในกระบวนการเรียนภาษา ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายดังนี้
กระบวนการโดยไม่มี Notion
- ผมไปเจอ YouTube วีดีโอนึงมาดูแล้วน่าเอามาฝึก ก็เปิดคลิปนั้นดู เปิดบ้าง หยุดบ้างเพื่อทำความเข้าใจเป็นระยะ
- ระหว่างที่ผมดูไปผมก็จดประโยคที่สนใจ คำศัทพ์ที่ไม่เคยรู้
- ดูจบก็ลองเขียนสรุปดูว่าเข้าใจอะไรบ้าง แล้วไปเปิดดิกชันนารี่หาควาหมาย
- ดูซ้ำอีกรอบทำความเข้าใจ วนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ
จากกระบวนการนี้จะเห็นได้ชัดเลยว่า จากวีดีโอคลิปเดียวเราแตกข้อมูลออกมาเป็น คำศัพท์ ประโยคที่ชอบ ไวยกรณ์ และ ใจความสำคัญ ซึ่งผู้เรียนก็มักจะบันทึกไว้ในสมุดบ้าง แอพไหนบ้าง ปัญหาคือเมื่อเราอยากกลับมาดูวีดีโออีก แต่ไม่ได้เก็บไว้รวมกัน เราจะหาได้ที่ไหน แล้วพอนานๆไป ถ้าเราลืมคำศัพท์แล้วอยากเอามาทวน เราต้องยุ่งยากในการหาขนาดไหน จากปัญหาตรงนี้เลยเป็นที่มาของไอเดียที่จะเรียนรู้ทุกอย่างและรวมอยู่ในที่เดียว
主页 หน้าแรก แหล่งรวมทุกอย่าง
มาถึงส่วนที่การใช้งาน Template ของ 图图是道 กัน เข้ามาถึงหน้าแรกจะเป็นหน้าที่เราใช้เวลาอยู่มากที่สุด หน้านี้ถูกออกแบบให้เป็นหน้าที่เห็นภาพรวมของทุกกิจกรรมที่เรากำลังทำอยู่และต้องทำ โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ส่วน หลักๆ ดังนี้
- ส่วนอธิบาย
- Pages – ในส่วนนี้ยังมีหน้าต่างๆ หากต้องการดูรายละเอียดของแต่ละตารางแบบเต็มหน้า หรือ อยากดูข้อมูลทั้งหมดที่เคยบันทึกมา ก็สามารคลิ๊กเลือกเข้าไปในแต่ละหน้าของส่วนนี้ได้เลย
- 说明 | Instructions – ในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่เขียนอธิบายเบื้องต้น ว่าแต่ละส่วนใช้ทำอะไรให้เข้าใจง่ายๆ เก็บไว้อ้างอิงได้ สามารถอ่านได้โดยกดลูกศรที่ “说明 | Instructions” เพื่ออ่านเพิ่มเติม
- 仪表盘 | Dashboard – เป็นส่วนเพื่อ Output **** ส่วนนี้เป็นส่วนที่ใช้เช็กว่าวันนี้ต้องทำอะไร หรือวันไหนต้องทำอะไรบ้าง โดยแบ่งเป็น
- 活动 | Activity เปิดเพื่อสร้าง หรือ เข้ากิจกรรมที่กำลังฝึกอยู่
- 练习 | Exercises เปิดเพื่อเขียน แต่งประโยค และฝึก บันทึกข้อความ วีดีโอ และ รูปเข้าไปในหน้านั้นๆ โดยดูจากคำศัพท์ด้านล่างที่ต้องรีวิวก็ได้
- 间隔重复 – 词语、词组、句子 เปิดเพื่อดูคำศัพท์ วลี หรือ ประโยคที่ต้องทวน ซึ่งใช้ Spaced Repetition ในการช่วยแนะนำ
- 间隔重复 – 语法、词法、注意 เปิดเพื่อดูไวยกรณ์ที่ต้องทวน ซึ่งใช้ Spaced Repetition ในการช่วยแนะนำอีกเช่นกัน
- 学中文的资料 | Resources รวมแหล่งข้อมูล หรือ สื่อไว้ให้เข้าไปดู หาเรื่องมาศึกษา เอาเว็บหรือช่อง YouTube มาไว้ตรงนี้ จะได้เข้าไปดูสะดวกๆ
- 内容 / 复习 | Contents or Reviews – เป็นส่วนเพื่อ Input ส่วนนี้ไว้บันทึกเนื้อหาที่กำลังศึกษา, ดูปฏิทินว่าเนื้อไหนควรทวนอีกตามที่ตั้งไว้ใน spaced repetition หรืออยากเลือกมาจัดตารางเองก็ได้ จะเล่ารายละเอียดการใช้งานในช่วงต่อไป
เอา Notion มาใช้จัดการ Input ใหม่ให้ดียิ่งขึ้น
พอมาใช้ Notion กระบวนการ Input ก็เปลี่ยนมาเริ่มต้นโดย
- ผมได้วีดีโอลิงค์มา
- สร้างหน้าใหม่ที่ “内容 / 复习 | Contents or Reviews” โดยกดที่ลูกศรข้างปุ่ม “New” สีฟ้า เพื่อเลือก Template ที่เหมาะสม Template ที่ทำไว้แล้วจะมี
- 听力/口语/模仿 | Listening, Speaking and Accent Study Template – เหมาะกับการเรียนรู้ด้วย Video และ Podcast สามารถเอามาแปะในนี้ได้
- 阅读/写作 | Reading and Writing Template – เหมาะกับการเรียนรู้ด้วยการอ่าน หรือ ฝึกเขียน เราจะอ่านจากข้างนอกแล้วถ่าบรูปสิ่งที่เราอ่านมาแปะไว้ก็ได้ หรือ จะเอา blog มาแปะเพื่อไว้ฝึกอ่านก็ได้ ในส่วนของการเขียนก็ใช้ Template นี้
- 通用学习 | General Template – คิดไม่ออกว่าใช้ Template ไหนก็ใช้ Template นี้แทน
- หลังจากเลือก Template ได้แล้ว กรณีนี้เลือก “听力/口语/模仿 | Listening, Speaking and Accent Study Template” เพราะออกแบบขั้นตอนไว้เพื่อการนี้ เราก็ก็อบลิงค์มาวางที่ พื้นที่ว่างใต้หัวข้อ “内容 | Content”
- ระบบจะมีกล่องขึ้นมาถามว่าจะทำอะไร เลือก Embed Video แล้วลิงค์ของเราก็จะกลายเป็นวีดีโอให้เราดูได้จากหน้านี้เลย
- ที่นี้ก็เปิดหน้านี้ดูวีดีโอไปแหละ พิมพ์โน๊ตไว้พื้นที่ใต้วีดีโอระหว่างที่ดู หรือจะเขียนใส่สมุดแล้วถ่ายรูปมาแปะทีหลังก็ได้
- เมื่อดูเสร็จแล้วก็ลองเขียนสรุปเนื้อหาที่เข้าใจก่อนที่ “注意 | Note”
- เปิดดิกชันนารี หาศัพท์ที่ไม่รู้ และ ไวยกรณ์ที่ไม่รู้ ตรงบริเวณ “输入 | Input” ทั้ง 2 ตาราง หากต้องการจดรายละเอียดหรือคำอธิบายเพิ่มเติมก็สามารถเปิดเป็นหน้า เพื่อจดหรือแปะลิงค์ได้
- เปิดวีดีโอดูอีกครั้ง แล้วลองเขียนสรุปอีกรอบ โดยลงมาที่ “内容摘要/写作” โดยกดลูกศรด้านล่างตรง YYYY MM DD อย่าลืมเปลี่ยน YYYY เป็นปี MM เป็นเดือน และ DD เป็นวันที่ด้วยนะ ถ้าจะเพิ่มรอบก็กดที่ “Add a new round” เพื่อเพิ่มวันที่ และเขียนสรุปเหมือนเดิม
- ลองกลับไปเทียบดูกับสิ่งที่สรุปก่อนหน้านี้ว่าเข้าใจมากขึ้นใหม่ จะลองทำซ้ำกี่รอบก็ได้จนกว่าจะพอใจ
จากกระบวนการนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้นนอกจากการเรียนรู้เลยคือ การเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ คำศัพท์และไวยกรณ์ที่บันทึกไว้จะไปรวมอยู่ใน database ส่วนกลางเพื่อให้เราทบทวนต่อได้ โดยหลักการ Spaced Repetition ต่อ และหากเนื้อหาในหน้าที่เราสรุปเป็นเนื้อหาสำคัญที่เราอยากทวนอีก เราก็สามารถทวนโดยใช้ Spaced Repetition ได้ด้วยเช่นกัน
การใช้ Spaced Repetition เพื่อช่วยจัดเวลาทบทวน
Spaced Repetition คือหนึ่งในหลักการที่เชื่อว่าหากเราทวนสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ในช่วงเวลาที่เราใกล้จะลืม จะได้ผลดีมากขึ้น และ ใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าการทวนทั้งหมด เราก็เลือกแค่ส่วนที่เราจำไม่ค่อยได้ก็พอ อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ในตอนที่ 1
ผมแบ่งการทวนออกเป็น 2 ระดับได้แก่
- การทวนเนื้อหา – ส่วนนี้ไม่จำเป็นต้องทำกับทุกเนื้อหา เอาแค่เนื้อหาที่จำเป็นต้องทวนจริงๆ ถึงจะใช้ระบบนี้ และไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องตอบถูกหรือผิดก็ได้หากต้องการให้เนื้อหาทั้งหน้าจัดเวลาและขึ้นปฎิทินให้ ให้กรอกและเลือกข้อมูลต่อไปนี้
- กรอกวันที่ในส่วนด้านบนตรงช่อง “Latest Review” เป็นวันที่ที่สร้างหน้านี้ขึ้นมา
- กดที่ด้านขวาของช่อง “Repetition Level” เลือกเป็น 1
- ระบบจะบอกวันที่ต้องทวนคราวหน้าให้ที่ช่อง “Next Review” และขึ้นที่ปฏิทินหน้าแรกให้ด้วย
- ต่อไปเมื่อทวนในแต่ละครั้ง ให้กดเปลี่ยนตัวเลข ในช่อง “Repetition Level” ให้สูงขึ้น ระบบจะคำนวนวันที่ให้ใหม่และปรากฎในปฎิทินให้ด้วย หากรู้สึกว่าทวนแล้วก็ยังไม่รู้เรื่อง จะกลับไปเริ่มที่ระดับที่ 1 ก็ได้ หากไม่อยากทวนแล้วลากไปไว้ที่ No status ได้เลย
- การทวนคำศัพท์และไวยกรณ์ – จากที่เราได้ย่อยเนื้อหาออกมา ส่วนนี้จะช่วยเราได้อย่างมาก ระบบจะช่วยกำหนดวันที่ให้ว่าเราควรทวนวันไหน เริ่มโดยการทายแบบ Quiz ว่าถูกหรือผิด และอาจจะนำมาแต่งประโยคหรือบทความสั้นจากคำศัพท์และไวยกรณ์ที่ต้องทวนในวันนั้นก็ได้วิธีการใช้ Function นี้ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- กรอกวันที่ในช่อง “Date Wrong” เป็นวันที่บันทึก
- กดที่ช่อง “Repetition Level” เลือกเป็น 1
- ระบบจะบอกวันที่ต้องทวนคราวหน้าให้ที่ช่อง “Next Review” และขึ้นที่ปฏิทินหน้าแรกให้ด้วย
- ต่อไปเมื่อทวนในแต่ละครั้ง
- ถ้าตอบถูก ให้กดเปลี่ยนตัวเลข ในช่อง “Repetition Level” หรือเลื่อนการ์ดให้ระดับสูงขึ้นทุกครั้งที่ตอบถูก ระบบจะคำนวนวันที่ให้ใหม่และปรากฎในปฎิทินให้ด้วย หากตอบถูกถึง Level 10 ให้ลากไปไว้ที่ No Status ได้เลย
- ถ้าตอบผิด ให้กดเปลี่ยนตัวเลข ในช่อง “Repetition Level” หรือเลื่อนการ์ดกลับไปที่ 1 ทันที และ เปลี่ยนวันที่ในช่อง “Date Wrong” เป็นวันที่ที่ตอบผิด ระบบจะคำนวนวันที่ให้ใหม่และปรากฎในปฎิทินให้ด้วย
主系统 ใช้งาน Dashboard ให้เป็น ช่วยให้สร้าง Output ง่ายขึ้น
มาถึงส่วนของการนำมาใช้รายวันบ้าง จะขอเรียกส่วนการนำมาใช้ว่า Main Output อย่างที่เคยได้เล่าไปในบทความ “10 เทคนิกพื้นฐานง่ายๆ ทำเป็นประจำ ภาษาจีนของคุณจะดีขึ้นได้อีกเยอะ” ว่าการเรียนภาษาที่ดีควรจัดเวลาให้ได้สัมผัสภาษาทุกวัน การทำ Main Output มีหน้าที่เพื่อช่วยเสริมจุดประสงค์นี้
เมื่อเราเข้ามาที่หน้าแรกจะมีปุ่มให้กดเปิดปิด (Toggle) อย่างที่ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนที่แนะนำให้เข้ามาดูก่อนจะมีอยู่ 3 ส่วน ได้แก่
- 间隔重复 – 词语、词组、句子 – ดูว่าวันนี้มี คำศัพท์ วลี หรือ ประโยคอะไรบ้างที่ต้องทวน
- 间隔重复 – 语法、词法、注意 – ดูว่าวันนี้มีไวยกรณ์ไหนบ้างที่ต้องทวน
- 内容 / 复习 – ดูว่ามีเนื้อหาไหนบ้างที่ต้องทวน
เราสามารเปลี่ยนมุมมองเพื่อให้เห็นภาพรวม หรือ อนาคตได้ด้วยโดยการกดที่ View ต่างๆ เพื่อเปลี่ยนมุมมอง โดยมี View ที่ใช้เพื่อดูดังนี้
- 今天复习卡 | Today Review Cards – เมื่อเปิด View นี้ จะโชว์เฉพาะการ์ดที่ต้องทวนวันนี้ในแต่ระดับ
- 所有复习卡 | All Review Cards – เมื่อเปิด View นี้ จะโชว์การทั้งหมดในแต่ละระดับ
- 复习日历 | Review Calendar – เมื่อเปิด View นี้ จะเปลี่ยนมุมมองเป็นปฎิทินให้เราเห็นภาพรวมว่าวันไหนต้องทำอะไร และจะมีตัวเลขระดับเล็กๆ ไว้ให้เห็นด้วย
- 内容版 | Content Board – มีเฉพาะที่ 内容 / 复习 เป็นบอร์ดเพื่อใช้ดูสถานะของการ์ดว่าอยู่ในสถานะไหน
- คลัง (Storage)
- กำลังดูอยู่ (In Progress)
- ทบทวน (To Review)
- เรียบร้อย (Complete)
- ไว้ค่อยว่ากัน (Someday/Maybe)
- 所有内容表格 | All Content Tables – มีเฉพาะที่ 内容 / 复习 เพื่อดูเนื้อหาทั้งหมดว่ามีอะไรบ้างที่เคยใส่ข้อมูลไว้ในรูปแบบตาราง สำหรับคำศัพท์ และ ไวยกรณ์หากอยากดูแบบนี้สามารถเข้าไปดูได้ที่หน้าตรงโซน Pages ด้านบนของหน้าหลัก
แนะนำวิธีการทวน Main Output รายวัน
เมื่อเรารู้แล้วว่าวันนี้จะทำอะไร ก็เริ่มทำการทวนได้โดยแนะนำการทวนดังนี้
- สำหรับคำศัพท์ วลี ประโยค หรือ ไวยกรณ์ แนะนำให้ลองมาทายดูว่าเราเข้าใจความหมาย หน้าที่ของคำ และ พินยินถูกหรือไม่ โดยอาจจะเขียนลงกระดาษตรงนั้นเลยก็ได้ และแนะนำให้เอามาแต่งประโยคหรือเขียนบทความสั้นต่อได้
- เฉลยจะถูกซ่อนไว้ไม่ให้เห็นหน้าการ์ด ต้องคลิกเข้าไป และกดที่ More Properties ถึงจะแสดงออกมา
- หากแต่งประโยคหรือบทความและต้องการที่จะบันทึกไว้ ให้สร้างหน้าใหม่ที่ 练习 | Exercises ได้ และ เลือก Template ที่เหมาะสม หรือจะเลือกหน้าเปล่าก็ได้ แนะนำให้แท็กคำศัพท์ ประโยค หรือ อย่างน้อยเขียนหัวข้อที่จะฝึก ในช่อง Name เพื่อจะได้ไม่งง
- การแท็กทำได้โดยการพิมพ์เครื่องหมาย @ และตามด้วยคำคำศัพท์ ประโยค ระบบจะขึ้นมาให้เลือก แต่จะไม่ทำก็ได้ครับ แต่เขียนหัวข้อให้เข้าใจก็พอ
- สำหรับเนื้อหาที่จะทวน รูปแบบนี้จะเหมาะกว่าในการฝึกการพูดแบบอัดวีดีโอ หรือ การเขียนที่ต้องการรายละเอียดที่ซับซ้อน การทบกวนไม่ยากเลยแค่ใส่ข้อมูลเพิ่มเข้าไปในหน้านั้นๆ ตามกระบวนการได้เลย
สำหรับการฝึกและการทวนแบบไหนควรทำอย่างไรแบบแยกประเภทอย่างละเอียด ไว้จะเขียนบทความแยกมาในโอกาสต่อไป
补充系统 ฝึกฝนเฉพาะอย่าง ช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตั้ง 活动
จากที่อธิบายเรื่อง Main Output ไปแล้ว บางทีเราก็เบื่อได้ที่ต้องทำแบบเดิมซ้ำๆ เรื่อยๆ การตั้งกิจกรรม หรือ challenge บ้างก็ช่วยให้เราแก้เบื่อได้ หรือ บางทีเรามีบางอย่างต้องทวนเป็นพิเศษในช่วงเวลาหนึ่ง เช่นเตรียมสอบพูดก็แนะนำให้ใช้การตั้งระบบเสริมได้ที่ 活动 | Activity เพื่อสร้างเป็นหน้าเฉพาะในการทวนเป็นพิเศษ
กิจกรรมที่เหมาะกับการใช้ระบบเสริม คือกิจกรรมที่เราจะกำหนดเวลาในการฝึกแน่นอนในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และ มีรูปแบบการฝึกที่ชัดเจน เช่น เตรียมสอบ HSK หรือ HSKK, การฝึกการออกเสียง, การฝึกเขียนนิยายเป็นภาษาจีน เป็นต้น
การสร้างกิจกรรมใน 活动 | Activity
- โดยกดที่ลูกศรข้างปุ่ม “New” สีฟ้า เพื่อเลือก 活动 Template
- แก้ไขชื่อ เป็นชื่อที่บอกว่ากิจกรรมนี้คืออะไร
- กำหนดช่วงเวลาของกิจกรรมว่าเริ่มเมื่อไหร่และจบเมื่อไหร่ที่ช่อง “日期 Period” เลือกวันที่เริ่มเรียบร้อยแล้ว ให้เลือกวันที่จบโดยกดเปิดที่ “End date” และเลือกวันในปฎิทิน
- ตั้งเป้าหมายของกิจกรรม เพื่อจะได้ทำตามได้
- ตั้งกฏและวิธีการทำกิจกรรม
- เมื่อจบกิจกรรมให้ติ๊กที่ช่อง “Archived”
活动 การใช้งานหน้ากิจกรรมที่สร้างขึ้นใหม่
ในหน้านี้จริงๆ แล้วจะคล้ายกับการใช้งานหน้าหลัก เป็นหน้าที่ออกแบบให้เป็นหน้ารวมเนื้อหาที่เกี่ยวกับกิจกรรมนี้ และทุกอย่างที่สร้างในนี้ก็จะยังเชื่อมต่อกับ ตารางคำศัพท์ ตารางเนื้อหา และ ตารางไวยกรณ์ส่วนกลางอยู่ด้วย Template ก็จะมีเหมือนกับการสร้างจากหน้าจากบริเวณ 内容 / 复习 เลย
สิ่งที่แตกต่างคือจะแสดงข้อมูลที่เกิดขึ้นเฉพาะในกิจกรรมนี้ และเน้นเรื่องปฎิทินเป็นหลักเพื่อให้เห็นภาพว่าแต่ละวันเราทำอะไรไปบ้าง
แนะนำวิธีการใช้ดังนี้
- สร้างเนื้อหาที่เราต้องการจะฝึก โดยกดที่ลูกศรข้างปุ่ม “New” สีฟ้า เพื่อเลือก Template ที่เหมาะสม Template ที่ทำไว้แล้วจะมี
- 听力/口语/模仿 | Listening, Speaking and Accent Study Template – เหมาะกับการเรียนรู้ด้วย Video และ Podcast สามารถเอามาแปะในนี้ได้
- 阅读/写作 | Reading and Writing Template – เหมาะกับการเรียนรู้ด้วยการอ่าน หรือ ฝึกเขียน เราจะอ่านจากข้างนอกแล้วถ่าบรูปสิ่งที่เราอ่านมาแปะไว้ก็ได้ หรือ จะเอา blog มาแปะเพื่อไว้ฝึกอ่านก็ได้ ในส่วนของการเขียนก็ใช้ Template นี้
- 通用学习 | General Template – คิดไม่ออกว่าใช้ Template ไหนก็ใช้ Template นี้แทน
- หลังจากเลือก Template ได้ แล้วก็ทำตามขั้นตอนใน Template นั้นได้เลย บันทึกคำศัพท์ ไวยกรณ์และเนื้อหาที่จะฝึกได้ในหน้านั้นๆ ได้เลย
- การบันทึกเนื้อหา คำศัพท์และไวยกรณ์ทั้งหมดในนี้จะไปโชว์ที่หน้าหลักด้วย หากต้องการทวนไปพร้อมกับ Main output ก็สามารถทำได้
สุดท้ายนี้แอดมินจะมาแจก Notion Template นี้กันให้แบบฟรีๆ ไปใช้ช่วยเรียนภาษาจีนกัน ง่ายๆ เพียงแค่
- แอด Line OA @tutustory มา
- พิมพ์คำว่า Notion ในแชท
- ระบบจะส่งลิงค์ให้ก็อบไปใช้กันได้เลย
หวังว่าทุกคนจะนำ Notion Template ไปลองใช้ฝึกเรียนภาษาจีนกัน แรกๆ อาจจะยากหน่อย แต่จะช่วยให้ได้ผลดีขึ้นในระยะยาวเมื่อเรามีคลังข้อมูลที่ใหญ่พอ สำหรับใครที่เรียนมาถึงระดับสูงแล้ว การนำไปใช้อาจจะไม่แนะนำให้กรอกข้อมูลที่รู้ลงไปทั้งหมดทีเดียว แต่เน้นค่อยๆ สะสมจะดีกว่า สำหรับผู้เริ่มต้นถือว่าเป็นโอกาสดีเลยที่จะค่อยๆ สร้างคลังความรู้ให้เติบโตไปพร้อมกันกับเรา
รายละเอียดของบทความนี้ค่อนข้างยาว แต่พยายามอยากอธิบายรายละเอียดการใช้ Template ให้เข้าใจมากที่สุดเท่าที่ทำได้ หากใครสงสัยมาสอบถามได้ที่เพจเลยนะครับ หรือมีใครใช้โปรแกรมอะไรอีกบ้าง มาแชร์กันบ้าง เผื่อมาปรับใช้กันนะ
บันทึก Facebook Live สอนการใช้ Template นี้
ติดตามเรื่องราวภาษาจีนย่อยง่ายๆ ด้วยภาพ หรือมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับภาษาจีน มาคุยกันได้ที่